สำหรับคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทรที่ตนตกเป็นจำเลย ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกานั้น นายวัฒนา ย้ำว่ากรรมธิการไม่ได้มีสิทธิเรียกผู้พิพากษามาชี้แจงได้ เพราะทุกอย่างต้องเป็นตามกระบวนการ ดังนั้นการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการฯ ในครั้งนี้ จึงไม่ได้เป็นการให้คุณให้โทษแก่ตนทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างไรก็ตาม หากเห็นว่าไม่ถูกต้องก็สามารถใช้ช่องทางร้องได้ และหากไม่เข้าใจก็สามารถถามไถ่เป็นการส่วนตัวได้เช่นเดียวกัน
นายวัฒนา ยังบอกอีกว่า การทำงานร่วมกันของคณะกรรมาธิการ ตนดำรงตำแหน่งอยู่ในฐานะที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ จึงอยากให้ทุกคนทำงานตรวจสอบฝ่ายบริหาร เพราะนายกรัฐมนตรี และการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาขาดการตรวจสอบมานานแล้ว